วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

แกงคั่วหอยขมใส่ชะอม สูตร คุณ Lady Cherry จากพันทิพ จดไว้กันลืม

ส่วนผสมมี
เนื้อหอยขม  1/2  กก
หน่อไม่หั่นเป้นเส้น ๆ  1/2  กก.
ชะอม  2  กำ (ใหญ่)  ล้างให้สะอาดแล้วเด็ดไว้
น้ำพริกแกงคั่ว  2 ขีด  รี่นำมาโขลกใส่กะปิเพิ่ม
ใบมะกรูด 4 - 5 ใบ
กะทิ  วันนี้ใช้กะทิถุงค่ะ ใช้ 1 ถุง (ใหญ่)

เครื่องปรุงรสก็มี เกลือ  น้ำปลา   และน้ำตาลปีปค่ะ  (และก็ลืมถ่ายรูปมาอีกเช่นเคย เหอ ๆ)


เริ่มทำเลย
-  นำหน่อไม้ที่ซื้อมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปต้มในน้ำเดือด แล้วเทน้ำทิ้งพักไว้นะคะ (เพื่อให้กลิ่นหายค่ะ)
-  ตั้งกระทะ ใส่กะทิลงไป ใส่พริกแกงลงไปผัดให้หอม
-  พอพริกแกงผัดหอมได้ที่แล้ว ก็ใส่เนื้อหอยขมลงไป
-  ผัดให้เข้ากัน เติมกะทิที่เหลือลงไปนะคะ แล้วปรุงรสด้วย เกลือ น้ำปลา น้ำตาลปีป  ชิมรสดูตามชอบนะคะ
-  พอน้ำแกงเดือด ใส่หน่อไม่ที่ต้มรอไว้แล้วลงไป
-  ใส่ใบมะกรูดตามลงไป
-  พอเดือดอีกครั้ง ใส่ชะอมลงไปค่ะ
-  คนให้เข้ากัน รอให้เดือดอีกครั้งนึง ชิมรสดูอีกที ถ้าพอดีก็ปิดไฟเลยค่ะ ถ้ายังไม่พอดีก็ปรุงเพิ่มตามชอบนะคะ  เสร็จแล้วค่ะ

รูปดูที่นี่ http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D9709682/D9709682.html

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

วุ้นแมงลัก

วุ้นแมงลัก

ส่วนผสม
วุ้นหวาน 1 ส่วน
เม็ดแมงลักแช่น้ำ 1/2 ถ้วยตวง
กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา
สีเขียว

วิธีทำ
1. เคี่ยววุ้นหวานจนร้อนจัด วุ้นหวานคือวุ้น
ผงกับน้ำเปล่าเคี่ยวจนละลายแล้วเติมน้ำ
ตาลทรายลงเคี่ยวจนละน้ำตาลละลาย
เติมเม็ดแมงลักคนให้เข้ากัน ยกลงจาก
เตา เติมกลิ่นมะลิและสีเขียวเล็กน้อย
2.ตักใส่พิมพ์รูปต่างๆตามต้องการ

เต้าส่วน

เต้าส่วน


ส่วนผสม
ถั่วเขียว  2       ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย  1       ถ้วยตวง
มะพร้าวขูด  1/2       ถ้วยตวง
น้ำ  6       ถ้วยตวง
เกลือป่น  1       ช้อนชา
แป้งมัน  7       ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.ล้างถั่วเขียวซีกให้สะอาด แช่น้ำค้างคืน ล้างเปลือกออกให้หมด  จึงนำไปนึ่งให้สุก
2.ต้มน้ำให้เดือด ใส่น้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลละลาย
3.ละลายแป้งมันกับน้ำเล็กน้อย ใส่ในหม้อน้ำตาล คนให้แป้งมันสุก
4.ใส่ถั่วเขียวที่นึ่งแล้ว คนให้เข้ากัน ยกลง
5.คั้นมะพร้าวให้ได้หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง ใส่เกลือยกขึ้นตั้งไฟ คนพอเดือด ยกลง (เวลาจะรับประทานตักใส่ถ้วย หยอดด้วยกะทิ)

แตงไทยน้ำกะทิ

แตงไทยน้ำกะทิ

ส่วนผสม
แตงไทยสุกหนัก 800 กรัม 1ผล
น้ำแข็งทุบละเอียด 2 ถ้วยตวง
กะทิขาวข้นปานกลางคั้นด้วยน้ำดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ 1/3  ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1.ล้างแตงไทยทั้งเปลือกให้สะอาด ตัดขวางผลกว้าง 1 นิ้ว  ปอกเปลือกออก คว้านไส้ออกหั่นหนา 1/2 นิ้ว ตวงได้ 6 ถ้วยตวง
2.ทำน้ำกะทิโดยผสมส่วนผสมทั้งหมดรวมกัน คนให้ละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำส่วนผสมตั้งไฟอ่อนปานกลาง พอเดือดยกลง ควรตั้งไฟคนบ่อยๆ
3.วิธีเสิร์ฟ  ตักแตงไทยใส่ถ้วยของหวานเฉพาะคน 1/3 ถ้วยตวง ใส่น้ำกะทิ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำแข็งทุบ 1 ช้อนพูน เสิร์ฟทันที

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

ลอดช่องกะทิ

ลอดช่องกะทิ


ส่วนผสมตัวลอดช่อง
* แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
* แป้งเท้ายายม่อม 30 กรัม
* แป้งซ่าหริ่ม 20 กรัม
* น้ำปูนใส 450 กรัม
* น้ำใบเตย 250 กรัม
* น้ำแข็ง

ส่วนผสมน้ำกะทิ
* น้ำกะทิ 250 กรัม
* น้ำตาลปึก 150 กรัม
* เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
* เทียนอบ

เพิ่มเติม
* เผือกนึ่ง, ข้าวเหนียวดำ, ขนุน อื่นๆ

วิธีทำ
1. ทำตัวลอดช่องโดยผสมแป้งข้าวเจ้า, แป้งเท้ายายม่อม, แป้งซ่าหริ่ม เข้าด้วยกัน หลังจากนั้นค่อยๆใส่น้ำ ปูนใสทีละน้อย ขณะเดียวกันก็นวดแป้งให้เข้ากันจนเนียนและเหนียว และค่อยๆใส่น้ำปูนใสจนหมด แล้วจึงใส่น้ำ ใบเตย แล้วนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง กวนจนแป้งเนียวและข้นจึงลดไฟลง กวนต่อจนแป้งสุก (แป้งจะมี ลักษณะข้นเหนียว)จึงปิดไฟ
2. เตรียมน้ำเย็นโดย นำน้ำแข็งไปละลายในน้ำจนน้ำเย็นจัด จากนั้นนำส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ในขั้นตอน ที่หนึ่งไปใส่ลงในพิมพ์ลอดช่อง ค่อยๆกดให้เป็นเส้นหย่อนลงไปในน้ำเย็นที่เตรียมไว้
3. ทำน้ำกะทิโดยนำน้ำตาลปึกผสมกับน้ำกะทิและเกลือป่น นำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆ คนจนน้ำตาลละลายดี จึงปิดไฟ และนำไปอบควันเทียนให้หอม
4. ตักเส้นลอดช่องใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ และน้ำแข็งทุบ สามารถใส่เครื่องเพิ่มเติมได้ตามต้องการ (เผือกนึ่ง, ข้าวเหนียวดำ, อื่น) เสริฟได้ทันที



 

ขนมไข่

ขนมไข่


ส่วนผสม                    
            1.     ไข่ขาวของไข่ไก่     1     ถ้วยตวง    
            2.     แป้งเค้ก     1     ถ้วยตวง    
            3.     น้ำตาลทราย     1     ถ้วยตวง    
            4.     น้ำมะนาว     1     ช้อนชา    
            5.     ผงฟู     1     ช้อนชา  

      
วิธีทำ
      1. ตีไข่ให้ขึ้นฟู แล้วเติมน้ำตาลทีละน้อยจนหมด ตีต่อไปจนน้ำตาลตั้งยอดอ่อน
      2. ร่อน แป้งผงฟูเข้าด้วยกัน แล้วแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ใส่แป้งส่วนที่ 1 ลงในไข่ที่ตีแล้ว เคล้าเบาๆให้เข้ากัน ใส่น้ำมะนาวลงไป ใส่แป้งส่วนที่ 2 เคล้าเบาๆอีกครั้ง
      3. ทาน้ำมันพืชที่พิมพ์ขนมอบให้ร้อน แล้วใส่แป้งที่ผสมลงในพิมพ์ปิดฝาอบให้แป้งสุกแห้งจนขนมเป็นสีทอง แกะขึ้นใส่ถาด พักไว้ให้เย็น

กล้วยเชื่อม

กล้วยเชื่อม

เครื่องปรุง
* กล้วยไข่ห่าม 8-10 ผล (ปอกเปลือกและบั้งตามขวาง)
* น้ำเปล่า 500 กรัม
* น้ำตาลทราย 400 กรัม
* น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำกะทิ 1/2 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำกะทิราดหน้า)
* เกลือป่น 1/2 ช้อนชา (สำหรับทำน้ำกะทิราดหน้า)

วิธีทำ
1. นำกระทะทองเหลืองไปตั้งบนไฟอ่อน จากนั้นผสมน้ำตาลทราย, น้ำเปล่า และน้ำมะนาวลงไป คนจนส่วนผสม ทุกอย่างเข้ากันดี
2. นำกล้วยที่ปอกแล้วลงไปเชื่อมในกระทะ เชื่อมจนสุกทั่ว โดยสังเกตุว่าผิวกล้วยจะใส ฉ่ำและเป็นเงา จากนั้นตักใส่จานเสริฟเตรียมไว้
3. ทำน้ำราดหน้าโดยผสมน้ำกะทิกับเกลือป่นเข้าด้วยกัน นำไปตั้งบนไฟอ่อนๆสักพัก ระวังอย่าให้กะทิแตกมัน
4. เวลาเสริฟ ราดน้ำกะทิบนกล้วยที่เชื่อมแล้ว สามารถเสริฟได้ทั้งขณะร้อน หรือเย็น



จาวตาลเชื่อม

จาวตาลเชื่อม


ส่วนผสม
จาวตาลสด 25 ลูก
น้ำตาลทรายขาว 4 ถ้วยตวง
น้ำ 4 ถ้วยตวง
สารส้ม              
ใบตอง  
      
วิธีทำ
1.ล้างจาวตาลให้หมดเมือกด้วยใบตองฉีกฝอย ขัดผิวนอกให้หมดคราบขาวๆ
2.นำไปแช่น้ำสารส้ม 1/2 ชม.  ล้างน้ำเปล่า ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
3.น้ำตาลครึ่งหนึ่งผสมกับน้ำ ใส่กระทะทองตั้งไฟ  ใส่จาวตาลลง พอจาวตาลสุกใส เติมน้ำตาลที่เหลือลงเชื่อมต่อจนเข้าเนื้อ พอน้ำเชื่อมเหนียว ยกลง

 

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

ขนมข้าวเหนียวดำ (ฺBlack Sticky Rice Pudding)

ข้าวเหนียวดำ

เครื่องปรุง 
* ข้าวเหนียวดำ 1/2 ถ้วยตวง
* เผือกหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำเปล่า 3 1/2 ถ้วยตวง
* หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง (ปรับได้ตามความหวานที่ต้องการ)

วิธีทำ
1. นำข้าวเหนียวดำไปล้างทำความสะอาด แล้วจึงใส่หม้อและใส่น้ำเปล่าลงไป ต้มทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที คนเป็นระยะๆ จนข้าวเหนียวสุก
2. ระหว่างรอข้าวเหนียวสุก นำเผือกมาปอกเปลือกและหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า แล้วนำไปนึ่งจนสุก ทิ้งไว้ให้เย็น
3. เมื่อข้าวเหนียวสุก เติมหัวกะทิ (เหลือหัวกะทิไว้นิดหน่อยเพื่อราดหน้าตอนเสริฟ) น้ำตาลและเผือกนึ่ง ต้มต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
4. ตักใส่ถ้วย ราดหน้าด้วยน้ำกะทิ และเสริฟเป็นของว่างได้ทันทีขณะยังร้อน หรือเสริฟขณะเย็นแล้วก็ได้

ขนมลูกชุบ (Green Peanut in Jelly)

ลูกชุบ

เครื่องปรุง
* ถั่วเขียว 450 กรัม
* น้ำตาลทราย 200 กรัม (สำหรับผสมถั่ว)
* น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำน้ำวุ้น)
* น้ำกะทิ 400 กรัม
* วุ้นผง 3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำวุ้น)
* สีผสมอาหาร (อย่างน้อยแม่สี 3 สี : สีแดง, สีเหลืองและน้ำเงิน), จานสีและพู่กัน
* ไม้จิ้มฟัน (สำหรับเสียบถั่วที่ปั้นแล้วเพื่อแต่งสีและจิ้มลงในน้ำวุ้น)
* โฟม (สำหรับเสียบถั่วปั้นระหว่างการทำ ถ้าวางบนพื้นจะเสียทรง)

วิธีทำ
1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทำความสะอาด และแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นำไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้า พร้อมกับน้ำตาลทรายและน้ำกะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
3. จากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้)และตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที) จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น (ถั่วต้องแห้ง มิเช่นนั้นจะไม่สามารถนำไปปั้นได้)
4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงตามใจชอบ (ผัก, ผลไม้หรือสัตว์น่ารักๆ) เมื่อปั้นเสร็จให้เสียบไม้จิ้มฟันรอไว้ ควรปั้นส่วนผสมทั้งหมดให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ถั่วที่ปั้นเสร็จแล้วควรห่อไว้ด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ
5. ผสมสีผสมอาหารตามต้องการ แล้วจึงบรรจงแต่งสีลงบนถั่วปั้นให้เหมือนจริง หรือตามแต่ความชอบ
6. ทำน้ำวุ้นโดยผสมน้ำเปล่า, ผงวุ้นและน้ำตาล ลงในหม้อ นำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง หมั่นคนอย่างสม่ำเสมอ รอจนส่วนผสมเดือด ช้อนฟองที่ลอยหน้าออก จึงหรี่ไฟลง
7. นำถั่วปั้นที่แต่งสีแล้วไปชุบในน้ำวุ้น ควรชุบประมาณ 2 - 3 ครั้ง ระหว่างชุบวุ้นต้องอุ่นน้ำวุ้นด้วยไฟอ่อนเพื่อไม่ให้วุ้นแข็ง ถ้าไม่พอก็ผสมน้ำวุ้นขึ้นใหม่ตามอัตราส่วนข้างต้น
8. นำลูกชุบออกจากไม้ิจิ้มฟัน ตัดแต่งเศษวุ้นส่วนเกินออกด้วยกรรไกร จัดใส่จาน เสริฟเป็นของว่างในวันสบายๆได้ทันที

แกงบวดฟักทอง (Pumpkin in coconut milk)

แกงบวดฟักทอง

เครื่องปรุง
* ฟักทองหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 2 ถ้วยตวง
* น้ำเปล่า 2 1/2 ถ้วยตวง
* หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
* หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
* ใบเตย 2 ใบ
* น้ำตาลทราย 40 กรัม
* น้ำตาลปี๊บ 40 กรัม
* เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ทำความสะอาดและหั่นฟักทองเป็นชิ้นพอดีคำ เพื่อความสวยงามไม่ต้องปอกเปลือกออก
2. นำหางกะทิ, ใบเตย, น้ำตาลทรายและน้ำตาลปี๊บใส่ลงไปในหม้อ และนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลางจนเดือด
3. ใส่ฟักทองที่หั่นไว้แล้วลงไป ต้มต่อไปจนฟักทองสุกและนุ่ม (ใช้เวลาประมาณ 10 นาที)
4. ใส่หัวกะทิและเกลือลงไป ต้มต่อจนเืดือดอีกครั้งจึงปิดไฟ
5 . ตักใส่ถ้วย สามารถเสริฟทันทีขณะร้อน หรือปล่อยไว้ให้เย็นแล้วค่อยเสริฟเป็นอาหารว่างในวันสบายๆ

วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

ขนมวุ้นกะทิ (Thai Coconut Jelly)

ขนมวุ้นกะทิ (Thai Coconut Jelly)



เครื่องปรุง
ส่วนผสมตัววุ้น
* วุ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำเปล่า 5 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง
* น้ำใบเตย,น้ำกาแฟ หรือสีผสมอาหาร (จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)

ส่วนผสมหน้าวุ้น
* วุ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะพร้าว 2 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง
* หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วยตวง
* แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
* เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
* แม่พิมพ์สำหรับใส่วุ้น (ถ้วยหรือชามเล็กๆ ก็สามารถใช้แทนกันได้)

วิธีทำขนมไทย
1. ทำตัววุ้นโดย ใส่ผงวุ้นและน้ำเปล่า ลงในกระทะทองเหลืองแล้วนำไปต้มจนผงวุ้นละลาย (หมายเหตุ : สามารถใส่น้ำใบเตยเพื่อทำวุ้นกะทิใบเตยหรือ น้ำกาแฟเพื่อทำวุ้นกะทิกาแฟ หรืออาจใส่ สีผสมอาหารเพื่อให้ได้สีที่ต้องการสำหรับตัววุ้น)
2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้ละลายดีจึงหรี่ไฟเบาลง
3. ตักส่วนผสมตัววุ้นลงไปในแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้ โดยหยอดให้ได้ประมาณ 3/4 ของแบบ และปล่อยไว้ให้วุ้นจับตัวพอตึง
4. ระหว่างรอตัววุ้นแข็ง เตรียมทำหน้าวุ้นโดย ใส่ผงวุ้นและน้ำมะพร้าว ลงในกระทะทองเหลืองแล้วนำไปต้มจนผงวุ้นละลาย
5. จากนั้นจึงใส่แป้งข้าวโพด, หัวกะทิ (ประมาณ 1/2 ถ้วยตวง) และ เกลือลงไปในส่วนผสมหน้าวุ้น คนอย่างต่อเนื่องจน ส่วนผสมละลายเข้ากัน
6. ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไป คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นจึงนำส่วนผสมของหน้าวุ้นไปหยอดใส่พิมพ์ให้เต็มอย่างปราณีต (พิมพ์ต้องใส่ตัววุ้นก่อน และต้องรอจน ตัววุ้นแข็งพอตึงๆก่อน มิเช่นนั้นตัววุ้นและหน้าวุ้นจะผสมกัน)
7. เมื่อหน้าวุ้นและตัววุ้นแข็งดีแล้วก็ให้เคาะออกจากแบบ จัดใส่จานและเสริฟได้ทันที

ขนมกล้วยบวดชี (Banana in Coconut Milk)

ขนมกล้วยบวดชี (Banana in Coconut Milk)



เครื่องปรุง
* กล้วยน้ำว้า 8 ลูก (เลือกห่ามๆ ไม่สุกมาก)
* หัวกะทิ 450 มิลลิลิตร
* หางกะทิ 500 มิลลิลิตร
* ใบเตย 2 ใบ
* น้ำตาลปี๊บ 40 กรัม
* น้ำตาลทรายขาว 40 กรัม
* เกลือ

วิธีทำขนมไทย
1. นำกล้วยไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 3-5 นาที หรือนึ่งจนกระทั่งผิวกล้วยเริ่มแตกออก จึงปิดไฟและนำออกมาปอกเปลือกและหั่นครึ่งลูก จากนั้นจึงหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
2. นำหางกะทิไปต้มในหม้อและใส่ใบเตยลงไปด้วย เมื่อเดือดแล้วจึงใส่กล้วยที่หั่นไว้แล้วลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ, น้ำตาลทรายขาวและเกลือนิดหน่อย
3. เมื่อกะทิเริ่มเดือดอีกครั้งจึงใส่หัวกะทิลงไป และปล่อยทิ้งไว้ให้เดือดอีกประมาณ 3 นาที ถ้าต้องการให้น้ำข้นเหนียวก็ให้ใส่แป้งมันลงไปประมาณ 1 ช้อนชาและคนให้ละลายทั่ว
4. อย่าต้มนานจนเกินไปเพราะจะทำให้กล้วยเละ กล้วยควรจะยังแข็งนิดหน่อย จากนั้นตักใส่จานและเสริฟทันที